เมนู

ทำนองอนิจจสัญญานั้น ภพทั้ง 3 ปรากฏขึ้นไม่เป็นที่พึ่งอาศัย ดุจเรือนถูก
ไฟไหม้ฉะนั้น.
ลำดับนั้น พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงรู้ว่า จิตของนางนันทาแล่นไปใน
กรรมฐาน จึงตรัสคาถาเหล่านี้ ด้วยอำนาจแห่งสัปปายะแก่นางว่า
ดูก่อนนันทา เจ้าจงดูร่างกายนี้ อัน
อาดูร ไม่สะอาด เปื่อยเน่า อันกระดูกยก
ขึ้นเป็นโครง ไหลเข้าไหลออก ที่พวกคน
พาลปรารถนากันยิ่งนัก สรีระของหญิงนี้
เป็นฉันใด สรีระของเธอนี้ก็จักฉันนั้น สรีระ
ของเธอนั้นฉันใด สรีระของหญิงนี้ก็ฉันนั้น
เธอจงดูธาตุทั้งหลายโดยความเป็นของสูญ
จงอย่ากลับมาสู่โลกนี้อีกเลย จงสำรอกความ
พอใจในภพเสีย แล้วจักเป็นผู้สงบระงับ
เที่ยวไป
ดังนี้.
ในเวลาจบคาถา นางนันทาดำรงอยู่ในโสดาปัตติผล ลำดับนั้น พระ-
ผู้มีพระภาคเจ้า เมื่อตรัสวิปัสสนากรรมฐาน ซึ่งมีสุญญตาเป็นบริวาร เพื่อ
บรรลุมรรคเบื้องบนแก่นาง จึงตรัสพระสูตรนี้ นี้เป็นอุบัติหนึ่งของสูตรนั้นก่อน.

อุบัติที่ 2.


อุบัติที่ 2 ได้กล่าวไว้แล้วในเรื่องของคาถาธรรมบทว่า ก็เมื่อพระผู้มี
พระภาคเจ้าประทับอยู่ ณ กรุงราชคฤห์ ธิดาของนางสาลวดี คณิกา ซึ่งมี